Search

Mr. Robot ซีซั่น 1 (สามารถดูได้ใน Netflix)
  • Share this:

Mr. Robot ซีซั่น 1 (สามารถดูได้ใน Netflix)

• จุดขายเป็นเทคโน-ทริลเลอร์ แต่เอาเข้าจริงรู้สึกว่ามันเป็น House of Cards มากกว่า มีตัวละครที่ทะเยอทะยานโดยไม่สนใจวิธีการ, มีการเจรจาต่อรองชิงเหลี่ยมเหมือนหนังการเมือง, และปลายทางมันก็พูดถึงความต้องการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งเราไม่ซื้อไอเดียของมันเท่าไร
• เพิ่งรู้ตอนดูถึง EP.8 ว่ามันเป็น Psychological thriller ด้วย แต่มาแบบคล้ายหนังที่เราไม่ชอบเรื่องหนึ่ง
• ชอบแกนหลักของซีรีส์ มันพูดถึงโลกที่การมีเงินทำให้เกิดอำนาจควบคุม คุณจำยอมถูกข่มเหงแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาคือแหล่งรายได้ / คุณต้องจำใจทำงานที่ไม่รักเพื่อเงินในการดำรงชีวิต / ก่อหนี้เพื่อการอุปโภคจนไม่สามารถออกไปทำสิ่งที่ตัวเองฝัน / บริษัทพึ่งพาลูกค้ารายเดียวจนเป็นความเสี่ยงไม่อาจเสียลูกค้ารายนี้ได้
• แต่ถึงแกนหลักจะดี เราก็ไม่ได้ชอบวิธีการที่อยู่ดี ๆ จะทำให้เกิดการล่มสลายของโลกการเงิน โดยเฉพาะเมื่อเป็นการตัดสินใจของคนไม่กี่คนโดยพลการ แล้วเคลมว่าตัวเองทำดี
• จะว่าไป เอลเลียต ตัวเอกของเรื่องก็ชวนให้นึกถึง ชาร์ลส์ เซเวียร์ เป็นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี พอมี power บางอย่าง เช่นความสามารถในการแฮ็คข้อมูล ก็เอาไปใช้ในทางมิชอบ แล้วอ้างว่าตัวเองเจตนาดี
• แต่โลกแฮ็คเกอร์ใน Mr. Robot ถึงจะไม่ละเอียดขนาดนั้น แต่ลักษณะมันดูน่าเชื่อกว่าหนังแฮ็คเกอร์หลายเรื่อง หะหะ ต้องหาข้อมูลก่อน ไม่ใช่นึกจะแฮ็คก็ทำได้เลย ต้องพึ่งโลกความจริงด้วย เช่น ศูนย์ข้อมูลหรือหาทางเข้าถึงอุปกรณ์จริง ถึงแม้ขั้นตอนบางอย่างจะแอบตลกไปหน่อย เช่น ทำ USB หล่นทิ้งไว้แล้วคนจะเก็บไปเปิดกับคอมที่ทำงานเนี่ย
• รามี มาเลค แสดงโอเคอยู่นะ ยังรู้สึกว่าคาแรคเตอร์ส่งให้เด่นมากกว่า คนที่รู้สึกว่าแสดงดีจริงคือ มาร์ติน วอลสตอร์ม ที่รับบท ไทเรลล์ เวลลิค บทหลายบุคลิกแล้วสีหน้าท่าทางคือถึงใจมาก

-------------------------------------

'เอลเลียต' (Rami Malek) หนุ่มวิศวกรรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่มีตัวตนอีกด้านเป็นแฮ็คเกอร์ระดับเทพ เขามีอาการกลัวสังคมและภาวะซึมเศร้า ต้องพบจิตแพทย์อยู่ตลอด แถมยังเสพยาเพื่อหลีกหนีความเครียดอีกต่างหาก วันหนึ่งเขาได้รับการทาบทามจาก 'มิสเตอร์ โรบอท' (Christian Slater) ให้มาร่วมวงโจมตีไซเบอร์ของ E Corp เพื่อปลดข้อมูลหนี้ให้คนทั้งโลก แต่ E Corp ดันเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทที่เขาทำงานรักษาความปลอดภัยให้อยู่
.
ส่วนตัวเฉย ๆ ในแง่ความเป็นซีรีส์แฮ็คเกอร์ ความเป็นเทคโนทริลเลอร์มันไม่ได้ชวนให้ว้าวอะไรในขั้นตอนเจาะระบบอะไรขนาดนั้น อย่างแผนก่อนโจมตีใหญ่ต้องเข้าถึง Data Center ไว้ก่อน มันก็ดูไม่ได้ยากเย็นอะไรในการที่คนนอกจะเข้าถึงส่วนหวงห้ามแล้วโหลดโปรแกรมเข้าไปโดยที่ระบบหรือคนใน Data Center ไม่เอะใจสักนิดเดียว แล้วส่วนประกอบอย่างการให้ทีมอื่นช่วยโจมตี Data Center ที่จีนไปด้วยมันก็ไม่ได้โชว์ความเป็นเทคโนทริลเลอร์อะไรเลย ดูจะโชว์ไดอะล็อกขายความฉลาดมากกว่า
.
หรืออย่างฉากที่ต้องเจาะระบบแหกคุก มันก็ไม่ได้รู้สึกเป็นเทคโนทริลเลอร์ที่เล่าชวนตื่นเต้นในโลกไซเบอร์ พอ ๆ กับฉากที่เอลเลียตต้องแฮ็คมือถือเจ้านายตัวเองก็ช่างดูง่ายไม่น่าเชื่อเหลือเกิน และฉากที่ต้องป้องกันการโจมตี คือมันเล่าเหมือนใหญ่โตแต่ตอนดูนั่งคีย์ ๆ อยู่หน้าโน้ตบุ๊คในศูนย์ข้อมูล เลยรู้สึกว่าจุดขายจริง ๆ ของซีรีส์มันไม่ใช่เทคโนทริลเลอร์ มันแค่เอาความเป็นแฮ็คเกอร์มาเป็นส่วนประกอบในการดำเนินเรื่องธีมใหญ่กว่านั้น ทั้งภาวะต้องการควบคุมคนอื่นและการเล่นบทบาทพระเจ้าของเอลเลียต แต่การเป็นพระเจ้าของเขาแค่มีอำนาจกำหนดโลก ไม่ได้แปลว่าจะเป็นการทำดีหรือเป็นคนดีอย่างที่พวกเขามองตัวเอง
.
ตัวละครแบบเอลเลียตเป็นประเภทละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่นเพื่อบงการผลลัพธ์ให้ถูกใจตัวเอง แล้วมั่นอกมั่นใจว่าตัวเองทำดีช่วยเหลือคนอื่น ยังดีว่าในตอนสุดท้ายของซีรีส์เลือกจะให้เหยื่อของการถูกแบล็กเมล์ออกมาพูดใส่หน้าคนดูว่าสิ่งที่ทำมันผิด สิ่งที่ตัวละครทำล้วนอยู่ในพื้นที่สีเทา เช่นการส่งข้อมูลคนร้ายเข้าคุก แต่ก็เพราะคนร้ายขัดผลประโยชน์ของเขา ไม่ใช่เพราะเขาสำนึกผิดชอบชั่วดี หรือการแฮ็คระบบเพื่อปลดหนี้คนทั้งโลกก็ดูจะเป็นอุดมคติที่ไม่คำนึงถึงความเป็นจริงของโลกเสรี
.
ปมที่น่าสนใจจริง ๆ ของเรื่องเลยกลายเป็นการสำรวจตัวละครหลักเสียมากกว่า โดยเฉพาะอาการทางจิตของเอลเลียตที่มาถึงจุดพีคใน EP.8 แบบไม่ทันตั้งตัวเพราะไม่ได้เอะใจสักนิดเดียว แต่ตัวละครที่เราชอบสุดในซีรีส์คือ 'ไทเรลล์' (Martin Wallstrom) เป็นคนหนุ่มที่ก้าวหน้าในที่การงานอย่างรวดเร็ว อารมณ์โมโหร้ายต้องระบายด้วยการชกต่อยคน มีความทะเยอทะยานขั้นสูงจนไม่สนใจวิธีการให้ได้มา เราค่อนข้างชอบที่ซีรีส์ให้กราฟตัวละครขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ได้สมหวังไปเสียทุกอย่าง แล้วมาร์ตินแสดงความหลากหลายบุคลิกของตัวละครออกมาดีมาก
.
อย่างไรก็ตามแกนหลักของเรื่องที่พูดถึงอำนาจของเงินสามารถกำหนดทุกอย่างได้ เป็นจุดที่ดีเลย มันไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าเงินฟาดหัวคนให้ทำสิ่งที่ต้องการ แต่พูดให้เห็นพลังที่มองไม่เห็น ตัวละครบางคนถูกทำร้ายร่างกายแต่ต้องยอมเพราะคนทำร้ายเป็นแหล่งรายได้เลี้ยงชีวิต, บริษัทที่อยู่ได้เพราะการพึ่งลูกค้ารายเดียว การไม่กระจายความเสี่ยงทางรายได้จึงทำให้ลูกค้ามีอำนาจเหนือกว่า เพราะความมั่นคงของบริษัทขึ้นอยู่กับลูกค้า, กระทั่งว่าในโลกที่รายได้คนไม่ทันกับรายจ่าย ต้องทำงานส่งลูกเรียน จ่ายทุกอย่างในชีวิตประจำวัน ทำงานเก็บเงินจนไม่มีเวลาทำสิ่งที่ฝัน, หรือการเป็นเจ้านายที่สามารถไล่คนออกก็ทำให้ชีวิตที่สวยหรูของลูกน้องเกิดความตื่นตระหนกได้ในพริบตา แต่อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ซื้อเดียการแฮ็คปลดหนี้ของซีรีส์เลย
.
โดยรวมก็เป็นซีรีส์ที่เล่าได้น่าติดตามดี ชอบมองเป็นซีรีส์ต่อรองหาจุดอ่อนแลกผลประโยชน์ win-win แบบเกมการเมืองมากกว่า

Creator: Sam Esmail

10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 50 นาที)
B+

#หนังโปรดxซีรีส์Netflix


Tags:

About author
ผมมีความฝันอยากเห็นคนไทยได้รู้จักหนังหลากหลายกว่าเดิม ผมจึงสร้างเพจ 'หนังโปรดของข้าพเจ้า' ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกคนอยากแนะนำหนังโปรดของตัวเอง โดยเคารพความแตกต่างของรสนิยมทุกคน เพราะหนังโปรดของเรา อาจไม่ใช่หนังโปรดของเขา ยินดีต้อนรับคนรักหนังทุกท่านนะครับ :)
"หนังโปรดของเรา อาจจะไม่ใช่หนังโปรดของเขา" ยินดีที่ได้แนะนำหนังผ่านการเขียนรีวิว
View all posts